รากฟันเทียม เป็นส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ ในการปลูกหรือฝังรากฟันเทียมแบบถาวร คือเมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพของฟันก็จะลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งใครที่ไม่ดูแลรักษาฟันให้ดี การเสื่อมสภาพของรากฟันของคุณก็จะมาถึงได้เร็วเช่นกัน การสูญเสียฟันแท้ชุดสุดท้ายไปถือเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนไม่อยากให้เป็น เพราะการต้องใส่ฟันปลอมจะสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น แต่ด้วยการพัฒนาของการรักษาทางด้านทันตกรรมในทุกวันนี้

สารบัญเนื้อหา

รากฟันเทียมคืออะไร

รากฟันเทียม เป็นวิธีการรักษาฟันที่สูญเสียหรือเสื่อมสภาพไปให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยรากฟันเทียมจะทำจากไทเทเนียม เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยและเข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี การทำรากเทียมมีความแข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนานโดยจะทำการฝังรากฟันเทียมเข้าไปยังตำแหน่งฟันที่เกิดความเสียหาย หรือฟันที่หายไป ด้วยการผ่าตัดนำรากฟันเทียมโลหะฝังลงไปในตำแหน่งของขากรรไกรเพื่อทดแทนตำแหน่งที่สูญเสียไป เพื่อให้รากฟันเทียมสามารถทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกรได้ ในการรักษาฟันโดยการใส่รากฟันเทียม ทันตแพทย์จะนำฟันเทียมใหม่มายึดติดกับรากฟันเทียมอีกที เพื่อให้ฟันที่สูญเสียไปกลับมาใช้งานได้อย่างเดิม โดยรากฟันเทียมจะครอบฟันเทียมที่ยึดติดกับขากรรไกรของเรา จะไม่มีวันหลุดออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอนปัจจุบันการใส่รากฟันเทียมมีเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย ออกแบบการทำรากเทียมโดยระบบดิจิตัลและระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้รับการรักษามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเคี้ยวการพูด สะดวกกว่าการต้องใส่ฟันปลอมแบบถอดได้อย่างแน่นอน โดยรากฟันเทียมจะมีอยู่ 3 องค์ประกอบด้วยกัน

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

  • รากฟันเทียม คือ ชิ้นส่วนที่อยู่ในกระดูกใต้เหงือก จะแทนที่รากฟันอันดับที่ถูกถอนไป และสามารถใช้งานได้นาน
  • abutment หรือหลักยึดใช้เพื่อยึดรากฟันเทียมและครอบฟันบนรากฟันเทียมไว้ด้วยกัน abutment หรือหลักยึดจะไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
  • ครอบฟันบนรากฟันเทียม คือส่วนที่มองเห็นได้ของฟัน สามารถใช้เคี้ยวอาหารได้ และเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ตนเองมีความมั่นใจมากขึ้น มีความเป็นธรรมชาติ และแข็งแรงเท่าฟันจริง

รักษารากฟันเทียมมีกี่แบบ

  • รักษารากฟันเทียม 1 ซี่  (single tooth)
  • รักษารากฟันเทียมหลายซี่ (Multiple Dental Implants)
  • รักษารากฟันเทียมที่หายจำนวนมาก (implants support bridge)
  • รักษารากเทียมมาทดแทนฟันที่หายไปทั้งปาก (implants over denture)
  • รากฟันเทียม ทั้งปาก แบบ All on 4

การทำงานของรากเทียม หลังจากใส่ไปแล้ว

สำหรับหลักการทำงานของ รากเทียม หรือ รากฟันเทียม คือ การเปลี่ยนหรือสร้างฟันขึ้นมาใหม่แบบถาวร โดยรากฟันเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกร โดยจะต้องทำทีละขั้นตอน เมื่อรากฟันเทียมและกระดูกขากรรไกรประสานกันได้สนิทแล้ว ก็จะทำการครอบฟันเทียมลงไป ให้ทำงานร่วมกับรากเทียมอย่างมีประสิทธิภาพไม่เลื่อน หรือลื่นหลุดออกจากจุดที่ต้องการ 

โดยการทำรากฟันเทียมจะใช้เวลาในการทำนานที่สุด เพราะจะต้องรอให้รากฟันเทียมและกระดูกขากรรไกรเชื่อมกันก่อน และค่อยทำการใส่ครอบฟันหรือฟันปลอมด้านบนลงไป ซึ่งการรักษาด้วยรากฟันเทียมจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่ฟันปลอมเพียงอย่างเดียว

ประโยชน์ของรากฟันเทียม

ประโยชน์ของการฝังรากเทียม

ประโยชน์ของการทำรากฟันเทียม จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณกลับมาเป็นปกติ สามารถพูดและรับประทานอาหารได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวล  การฝังรากเทียมนี้ ช่วยในการทำฟันปลอม การครอบฟัน และที่ยึดฟันปลอมบนรากเทียม มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติในการพูดการเคี้ยว เพราะการทำฟันปลอมแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกไม่สบาย ไม่เป็นธรรมชาติ รู้สึกเจ็บนูน และหลุดเลื่อนได้ง่าย ๆ

ขั้นตอนการรักษาด้วย รากเทียม

การทำรากฟันเทียมเป็นขั้นตอนการรักษาที่ดีที่สุดของการทดแทนฟันใหม่ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากฟันแท้ และไม่ทำให้กระดูขากรรไกลสลายอีกด้วย โดยขั้นตอนการรักษารากฟันเทียมมีดังต่อไปนี้

  • ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปาก เอ็กซเรย์ หรือ CT scan หากจำเป็น จะใช้ทันตแพทย์เฉพาะทางในการทำรากฟันเทียม เพื่อประเมินความหนาของเนื้อเยื่อบนกระดูกขากรรไกร และสันเหงือก อาจใช้การพิมพ์ปากเพื่อวางแผนการรักษา และกำหนดตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับรากไทเทเนียม
  • ทันตแพทย์จะฉีดรากฟันเทียมไทเทเนียมในครั้งแรกโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ จากนั้นจึงใส่วัสดุไทเทเนียมลงในกระดูกขากรรไกร เย็บปิดแผล หลังจากผ่านไป 7-14 วัน จะตัดไหมออก และติดวัสดุเสริมเข้ากับกระดูกขากรรไกร หลังจากนั้นรอประมาณ 3-6 เดือน
  • ทันตแพทย์จะใส่เครื่องมือที่ช่วยสร้างช่องว่างในเหงือก จากนั้นจึงพิมพ์ปากภายใน 1-2 สัปดาห์เพื่อทำครอบฟัน จากนั้นทันตแพทย์จะสวมครอบฟันลงไป เพื่อให้การบูรณะฟันมีความสมบูรณ์แบบเหมือนกับฟันจริง ๆ มากที่สุด

รากเทียม แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ? 

ในการวิธีการรักษาทางทันตกรรมโดยการใส่รากฟันเทียม ถือเป็นการทำฟันขึ้นมาใหม่ทั้งระบบเพื่อทดแทนฟันที่เสียหายหรือหมดสภาพไปในระยะยาว ซึ่ง รากฟันเทียม เป็นสกรูไทเทเนียมที่คุณหมอทางทันตกรรมทำการฝังรากเทียมด้วยอุปกรณ์พิเศษให้เข้ากับกระดูกขากรรไกรแทนรากฟันเดิม

ขั้นตอนการทำรากฟันเทียมจึงต้องใช้ระยะเวลา เพื่อให้วัสดุเทียมและขากรรไกรหลอมรวมเข้าด้วยกัน หลังจากหลอมรวมแล้ว รากเทียมจะสามารถรองรับฟันเทียม หรือครอบฟันบนรากเทียมได้ ฝังรากเทียมมีประโยชน์ด้านการใช้งานและความสวยงามหลายประการ รวมไปถึงแก้ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • ฟื้นฟูลักษณะฟันที่เสียหาย หรือฟันที่หายไป
  • ปรับปรุงฟังก์ชั่นการกัดและเคี้ยว
  • รักษาเสถียรภาพของเนื้อเยื่อฟันและกรามโดยรอบ
  • การฝังรากเทียมป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก

การปลูกรากฟันเทียมมีอัตราความสำเร็จสูงถึงประมาณ 95% และส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับหลายๆ คนที่ต้องการทำรากฟันเทียม เพราะวิธีการนี้ดีกว่าการใส่ฟันปลอมอย่างแน่นอน เพราะคุณจะสามารถบดเคี้ยวอาหารต่าง ๆ ได้อย่างปกติ และดูแลทำความสะอาด ใช้ไหมขัดฟัน ได้เหมือนกับฟันจริง ๆ

ใครบ้างที่สามารถใส่รากฟันเทียมได้

ใครบ้างที่สามารถรับการรักษา รากฟันเทียม ได้ ?

ผู้ที่สามารถเข้ามารับการรักษาโดยการใส่ รากเทียม คือ ผู้ที่สูญเสียฟันแท้จากอุบัติเหตุ หรือการเสื่อมสภาพของฟัน  ผู้ที่มีฟันแตก หัก ซึ่งจะต้องเข้าทำการรักษาด้วยการถอนฟันจากทันตแพทย์ เพื่อเริ่มทำรากฟันเทียมขึ้นมาใหม่ ผู้ที่ทำฟันปลอมแบบถอดได้ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ผู้ประสบกับปัญหากระดูกขากรรไกรล่างยุบตัวลงมากจากการใส่ฟันปลอมทั้งปาก  และผู้ที่ไม่ชอบใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ ซึ่งการฝังรากฟันเทียมจะช่วยยึดฟันปลอมให้แน่นขึ้น ทำให้ฟันกลับมาทำงานได้ดีขึ้น

ระยะเวลาการทำรากฟันเทียม

สำหรับรักษาปลูกรากฟันเทียม มีการแบ่งขั้นตอนในการรักษาเป็น 2 ครั้ง ในการแรกจะทำให้การฝังรากฟันเทียมลงไปในตำแหน่งที่ต้องได้รับการรักษา และรอเวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก (ขึ้นอยู่กับสภาพของกระดูกของผู้ป่วย) ในครั้งที่สอง มีการใส่ฟันปลอมหรือครอบฟันบนรากเทียมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ รวม ๆ แล้วระยะเวลาสิ้นสุดการรักษาจะอยู่ที่ 3-6 เดือน

การเตรียมตัวก่อนรักการรักษารากฟันเทียม

  • เข้าปรึกษาคุณหมอทันตแพทย์ฝังรากเทีมที่มีความเชี่ยวชาญสูงกับ Dio Dental เพื่อวางแผนการรักษา เช่น จำนวนการปลูกรากฟันกี่ซี่ที่ต้องการรักษา และจำเป็นต้องปลูกถ่ายกระดูกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ 
  • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว วางแผนการประเมินก่อนดำเนินการรากฟันเทียม เพื่อไม่ให้ การฝังรากเทียม มีผลกระทบกับการมีโรคประจำตัวของคนไข้
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปลูกรากฟันเทียมหลายซี่หรือมีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างมีนัยสำคัญ อาจจำเป็นต้องเอ็กซเรย์ 3 มิติเพื่อวางแผนการรักษา

การดูแลรักษารากฟันเทียม

  • การรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียวต้องเคี้ยวมาก อาจทำให้รากฟันเทียมหลุดออกได้ เพราะถ้าส่วนของรากฟันเทียมหลุดออกไป การซ่อมแซมรากฟันเทียมและใส่กลับเข้าที่ จะต้องเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากมากขึ้น
  • ลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีหน้าที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากมากมาย เช่น โรคเหงือกอักเสบ การติดเชื้อ ฟันผุ และมะเร็งในช่องปาก ส่งผลเสียกับรากฟันเทียมโดยตรง
  • มีวินัยในการทำความสะอาดปาก เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพื่อรักษาสุขภาพฟันไม่ให้เกิดปัญหาอย่างเหงือกอักเสบ ผู้ป่วยสามารถทำความสะอาดฟันมีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากได้ตามปกติ และตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีหน้าที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากมากมาย เช่น โรคเหงือกอักเสบ การติดเชื้อ ฟันผุ และมะเร็งในช่องปาก ส่งผลเสียกับรากฟันเทียมโดยตรง

ข้อดีข้อเสียในการรักษารากฟันเทียม

ข้อดีของการใส่ รากฟันเทียม

  • สามารถใช้รากฟันเทียมแทนรากฟันธรรมชาติ ให้ชิดลึกเข้าไปในกระดูกขากรรไกรได้มากที่สุด ผู้สวมใส่รากเทียมจะรู้สึกราวกับว่ารากเทียมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ตำแหน่งฟันมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ลอยเหมือนฟันปลอมแบบถอดได้
  • ช่วยลดโอกาสการสูญเสียฟัน โดยปกติแล้วหากฟันธรรมชาติหายไปและไม่มีการรักษาทดแทน อาจทำให้ฟันซี่อื่นเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมไปสู่ปัญหาการสูญเสียฟันได้
  • ช่วยให้การพูดเป็นปกติมากขึ้น รากฟันเทียมที่รักษาแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนยังมีฟันธรรมชาติอยู่
  • ช่วยให้การรับประทานอาหารเป็นปกติมากขึ้น รากฟันเทียมจะยึดติดกับเหงือกเหมือนรากฟันธรรมชาติ การป้องกันไม่ให้ขยับเหมือนฟันปลอมแบบถอดได้สามารถช่วยให้คุณเคี้ยวอาหารได้อย่างปกติมากขึ้น
  • ช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น รากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องกรอฟันซี่อื่น เช่นเดียวกับฟันปลอมที่ต้องกรอฟันที่อยู่ติดกัน มาเป็นผู้ยึดเหนี่ยว นอกจากนี้ รากฟันเทียมยังง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดเหมือนกับฟันธรรมชาติ
  • รากฟันเทียมที่มีความทนทานสูงสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตหากได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างเหมาะสม และไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคเหงือก

ข้อดีเสียของการ รากฟันเทียม

  • หากประสบอุบัติเหตุทำให้ฟันแท้หลุดหรือหัก จนต้องใส่รากฟันเทียม แต่อายุไม่ถึง 18 ปี จะไม่สามารถใส่รากเทียมได้ เพราะกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน  โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือผู้ที่มีปัญหาอื่น ๆ จะต้องได้รับการพิจารณาจากทันตแพทย์ในการรักษาว่าสามารถใส่รากฟันเทียมได้หรือไม่
  • ใช้เวลานานในการรักษาในแต่ละขั้นตอน ผู้ที่เข้ารับการรักษารากฟันบางคนใช้เวลาเป็นปี
  • มีค่าใช้จ่ายในการรักษารากเทียมที่สูงกว่าการรักษาฟันแบบอื่น ๆ 

ทำไมต้องทำรากฟันเทียมกับ Dio Dental

Dio Dental คลินิกทันตกรรมที่มีให้บริการรักษารากฟันเทียม โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง พร้อมเข้าไปดูแลปัญหาช่องมากด้วยเครื่องมือถือที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีในการวางแผนผ่าน Digital 3D และ CT-Scan มีแลป​ ออกแบบและผลิตชิ้นงานเซรามิก Zirconia ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 

ทำให้การใส่รากฟันเทียมของผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย โดยทางดีโอ้มีผู้เข้ามารักษาการทำรากฟันเทียมมากกว่าสองพันซี่ จึงสามารถมั่นใจในทุก ๆ ขั้นตอนการรักษาที่ Dio Dental คลินิกทันตกรรมชั้นนำของเมืองไทยได้เลย

ค่าใช้จ่ายในการรักษา การทำรากฟันเทียม

ค่ารักษารากฟันเทียม Digital

***เริ่มต้นที่ราคา 25,599 บาท/ซี่

รวมครอบฟัน Zirconia

FREE CT SCAN

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียม

ทำรากฟันเทียมใช้เวลานานแค่ไหน ?

การทำรากฟันเทียม dental implant ในแต่ละขั้นตอนการทำรากฟันเทียมใช้เวลารวมกันประมาณ 3 เดือน โดยเฉพาะการ ฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูก หรือยึดติดกับกระดูกฝังไปในกระดูกขากรรไกรจะใช้เวลานานที่สุด และครอบฟันบนรากฟันใช้เวลาน้อยสุด

ใส่ฟันปลอมแบบถอนได้สามารถใส่รากฟันเทียมได้หรือไม่ ?

ทำรากเทียมแบบถาวรในขณะที่ใส่ฟันปลอดอยู่ สามารถทำรากฟันเทียมได้ ซึ่งจะส่งผลดีกับการใช้ชีวิตมากขึ้น และยังสามารถฝังรากฟันเทียมทั้งปากได้ด้วย

การทำรากฟันเทียมอายุการใช้งานนานแค่ไหน ?

อายุการใช้งานการทำรากเทียมติดแน่น จะสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก แปรงฟันใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ

การฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกใช้เวลาเท่าไหร่ ?

ทันตกรรมรากเทียม หรือการรักษาด้วยรากฟันเทียมไปในกระดูกขากรรไกร เวลาในการรักษาให้ติดกับกระดูกขากรรไกร ใช้เวลาในการรักษา ประมาณ 3 เดือน ถึง 6 เดือน

ตำแหน่งฟันที่สูญเสียฟันไป การใช้ฟันปลอด กับ การทำรากฟันเทียม แบบไหนดีกว่ากัน ?

การทดแทนฟันที่หายไป ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำรากฟันเทียมมากกว่าหากมีงบประมาณการรักษาเพราะ การทำรากเทียม ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติของเรา รักษาด้วยรากฟันเทียมที่ดีที่สุด ในกรณีมีงบไม่มากพอก็สามารถทำฟันปลอดไปก่อนได้

การเตรียมตัวทำทันตกรรมรากเทียม อย่างไร ?

ในกรณีที่ฟันเสียหายและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยรากฟันเทียม ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก รากฟันเทียมเป็นการรักษาได้เลยทันที หรือในกรณีที่กำลังใส่ฟันปลอมและรู้สึกลำบากก็สามารถเข้ารับการทำฟันเทียมได้เลย

 สรุป

รากฟันเทียม เป็นการรักษาฟันที่เสียหาย หรือฟันที่หมดสภาพในการใช้งานตามอายุ เพื่อให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่สูญเสียฟันจากอุบัติเหตุ ผู้ที่ใส่ฟันปลอม และอื่น ๆ สามารถเข้ามา ปลูกรากเทียม ได้ โดยรากฟันเทียมจะเข้ามาทดแทนรากฟันจริง ด้วยการรักษาทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัย รากฟันเทียม สามารถอยู่ได้นาน 10-20 ปีขึ้นไป แต่จะต้องหมั่นมาเช็คสภาพกับคุณหมอเป็นประจำ