การรักษาสุขภาพช่องปากให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรอยยิ้มที่สวยงามและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม การขูดหินปูนเป็นขั้นตอนทางทันตกรรมระดับมืออาชีพที่ออกแบบมาเพื่อขจัดคราบพลัคและคราบหินปูนที่สะสมอยู่ ช่วยให้สุขภาพฟันและเหงือกแข็งแรงขึ้น ในคู่มือที่ครอบคลุมนี้ เราจะเจาะลึกรายละเอียดของการขูดหินปูน ตลอดจนขั้นตอน ประโยชน์ และเคล็ดลับการดูแลหลังการที่จำเป็น

สารบัญเนื้อหา

ฟันปลอม ราคาเท่าไหร่ ทำไมต้องใส่ฟันปลอม

ฟันปลอมคืออะไร

ฟันปลอมเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้เพื่อแทนที่ฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป เหมือนกับฟันปกติ ฟันปลอมสามารถช่วยให้สามารถกินอาหารได้อย่างปกติ และยังช่วยให้มีรอยยิ้มที่สวยงามอีกด้วย

การใส่ฟันปลอมมีขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน โดยจะมีการถ่ายภาพปาก เพื่อให้ฟันปลอมที่สร้างขึ้นมีขนาดและรูปร่างที่สอดคล้องกับปากของคุณอย่างแม่นยำ ฟันปลอมสามารถทำจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น โลหะ, เซรามิก, หรือพลาสติก แต่วัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเซรามิก เนื่องจากมีคุณสมบัติที่คล้ายกับฟันธรรมชาติมากที่สุด

การดูแลฟันปลอมก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อให้ฟันปลอมใช้งานได้นานๆ ควรรักษาความสะอาดของมันอย่างสม่ำเสมอ โดยการแปรงฟันปลอมด้วยแปรงสีนุ่ม โดยแปรงให้เข้าถึงระหว่างฟันปลอมและเงือก

ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหาฟันที่สูญเสีย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและวัสดุที่มีคุณภาพ ทำให้ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับคนที่ต้องการมีรอยยิ้มที่สวยงามและเป็นฟังก์ชันที่ดีในการกินอาหาร

ฟันปลอมมีกี่แบบ

ฟันปลอมแบบติดแน่น ประกอบด้วย

  • ครอบฟัน ใช้ครอบฟันซี่ที่สูญเสียไป เพื่อปกป้องฟันแท้ข้างเคียง
  • สะพานฟัน ใช้แทนฟันที่สูญเสียไป โดยพึ่งพาฟันแท้ข้างเคียง
  • วีเนียร์ ใช้แปะบนผิวฟัน เพื่อปรับรูปร่าง สี และขนาดของฟัน
  • รากฟันเทียม จะถูกฝังลงในกระดูกขากรรไกร เพื่อรองรับฟันปลอมแบบครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมทั้งปาก

ฟันปลอมแบบถอดได้ ประกอบด้วย

  • ฟันปลอมทั้งปาก ใช้แทนฟันทั้งปาก เหมาะกับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งขากรรไกรบนและล่าง
  • ฟันปลอมบางส่วน ใช้แทนฟันบางส่วน เหมาะกับผู้ที่ยังมีฟันแท้หลงเหลืออยู่
  • ฟันปลอมแบบยืดหยุ่น ใช้แทนฟันบางส่วน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย
ประเภทของฟันปลอม

ประเภทของฟันปลอมแบบถอดได้

  • ฟันปลอมแบบธรรมดา ทำจากพลาสติก เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด
  • ฟันปลอมแบบโลหะ ทำจากโลหะผสม มีความแข็งแรง ทนทาน
  • ฟันปลอมแบบผสม ผสมผสานระหว่างพลาสติกและโลหะ
  • ฟันปลอมแบบฐานนิ่ม(Valplast) ทำจากวัสดุพิเศษ ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา

ฟันปลอมทำจากอะไร

ฟันปลอมเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการแทนที่ฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป เหมือนกับฟันธรรมชาติที่มีหน้าที่ในการเคลือบและป้องกันเนื้อเยื่อภายในช่องปาก ฟันปลอมสามารถทำจากวัสดุหลากหลายประเภท เช่น โลหะ, เซรามิก, พลาสติก หรือผสมของวัสดุต่าง ๆ ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการทำฟันปลอมจะมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน

การทำฟันปลอมจากโลหะเช่น ทองแดงหรือสังกะสีมักจะมีความแข็งแรงและทนทาน แต่อาจมีปัญหาเรื่องความสมบูรณ์ของสีที่ไม่ตรงกับฟันธรรมชาติ ในขณะที่ฟันปลอมที่ทำจากเซรามิกมักจะมีลักษณะคล้ายกับฟันธรรมชาติมากที่สุด แต่อาจเป็นวัสดุที่แตกง่ายกว่า

การเลือกใช้วัสดุในการทำฟันปลอมนั้นจึงขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล รวมถึงคำแนะนำจากทันตแพทย์ด้วย เพื่อให้ได้ฟันปลอมที่มีคุณภาพและความทนทานที่ดีที่สุด

ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการทำฟันปลอมก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D printer) เพื่อสร้างฟันปลอมที่แม่นยำและสวยงามมากยิ่งขึ้น

 

ขั้นตอนการทำฟันปลอม

 

ขั้นตอนการทำฟันปลอม
  • พบทันตแพทย์ แจ้งความต้องการ ตรวจสุขภาพช่องปาก ถ่ายภาพ X-ray และพิมพ์แบบจำลองช่องปาก
  • เลือกประเภทของฟันปลอม แจ้งงบประมาณ ตามทันตแพทย์แนะนำ
  • เตรียมช่องปาก กรอฟัน (กรณีฟันปลอมแบบติดแน่น) หรือถอนฟัน (กรณีจำเป็น)
  • เตรียมฟันปลอม ส่งแบบจำลองไปยังแล็บ และช่างทำฟันปลอม
  • ลองใส่ฟันปลอม ปรับแต่งให้พอดี ตรวจสอบการสบฟัน
  • ใส่ฟันปลอม โดยอธิบายวิธีการดูแลรักษา นัดตรวจติดตามผล ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ (ฟันปลอมแบบถอดได้) และ4-6 สัปดาห์ (ฟันปลอมแบบติดแน่น)

การดูแลฟันปลอม

การดูแลฟันปลอม มีความสำคัญอย่างมาก ช่วยให้ฟันปลอมใช้งานได้ยาวนาน ป้องกันปัญหากับช่องปาก และสุขภาพโดยรวม

ฟันปลอมแบบติดแน่น

  • ทำความสะอาด โดยแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันแปรงบริเวณรอยต่อระหว่างฟันปลอมกับเหงือก ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน และใช้เครื่องพ่นน้ำแรงดันสูง (Water Flosser)
  • ตรวจสุขภาพพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันปลอมเป็นประจำ
  • แจ้งทันตแพทย์หากมีปัญหา เช่น ฟันปลอมหลุด กัดเจ็บ หรือมีแผลในปาก
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารเหนียว แข็ง หรือร้อนจัด หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารด้านเดียว 
  • ข้อควรระวัง ฟันปลอมไม่ใช่ฟันธรรมชาติ ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ อาจเกิดปัญหากับเหงือก

ฟันปลอมแบบถอดได้

  • ทำความสะอาด โดยการแปรงฟันปลอมวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและน้ำสบู่ล้างน้ำสะอาดให้หมด แช่ฟันปลอมในน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม ไม่ควรใช้ยาสีฟัน เพราะอาจทำให้ฟันปลอมสึกหรอ
  • เก็บรักษาเมื่อไม่ใช้งาน เก็บฟันปลอมในภาชนะที่มีน้ำสะอาด ไม่ควรเก็บฟันปลอมในที่แห้ง เพราะอาจทำให้ฟันปลอมบิดงอ ใส่และถอด ล้างมือให้สะอาดก่อนใส่และถอดฟันปลอม วางฟันปลอมบนผ้าขนหนูเพื่อป้องกันการตกหล่น 
  • ใส่ฟันปลอมเบาๆ กดให้พอดี ถอดฟันปลอมโดยจับด้านข้าง ดึงออกเบาๆ
  • ตรวจสุขภาพ พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันปลอมเป็นประจำ
  • แจ้งแพทย์หากมีปัญหา เช่น ฟันปลอมหลวม กัดเจ็บ หรือมีแผลในปา
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารเหนียว แข็ง หรือร้อนจัดและ หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารด้านเดียว 
  • ข้อควรระวัง ฟันปลอมไม่ใช่ฟันธรรมชาติ ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจเกิดปัญหากับเหงือก

ฟันปลอมเเบบติดเเน่น

  • ทำความสะอาด ด้วยการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟัน แปรงบริเวณรอยต่อระหว่างฟันปลอมกับเหงือกใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน และใช้เครื่องพ่นน้ำแรงดันสูง (Water Flosser)
  • พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันปลอมเป็นประจำ แจ้งแพทย์หากมีปัญหา เช่น ฟันปลอมหลุด กัดเจ็บ หรือมีแผลในปาก
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารเหนียว แข็ง หรือร้อนจัด และหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารด้านเดียว
  • ข้อควรระวัง ฟันปลอมแบบติดแน่น ไม่ได้อยู่ถาวร จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ และอาจเกิดปัญหากับเหงือกและรากฟัน

ใครควรใส่ฟันปลอม ?

  • ผู้สูญเสียฟัน ที่ทำให้ส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร กระทบระบบย่อยอาหาร, ส่งผลต่อการออกเสียง พูดไม่ชัด, ส่งผลต่อรูปหน้า และส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก ฟันที่เหลืออาจล้มเอียง
  • ผู้ที่มีปัญหาฟัน เช่น ฟันผุ, ฟันบิ่น, ฟันแตก, ฟันหัก, ฟันเรียงตัวไม่สวย หรือฟันมีช่องว่าง
  • ผู้สูงอายุ ที่ฟันหลุดร่วงตามธรรมชาติ หรือเหงือกอักเสบ

ฟันปลอมแบบไหนเหมาะกับคุณ

  • ปัญหาการสูญเสียฟันบางซี่ หรือหลายซี่  การทำฟันปลอมแบบติดแน่น ฟันปลอมแบบถอดได้บางส่วน หรือฟันปลอมแบบถอดได้ สำหรับคนที่สูญเสียทั้งปากควรทำฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งปาก หรือรากฟันเทียมแบบ All-on-4
  • งบประมาณ ฟันปลอมแบบถอดได้จะราคาถูก ฟันปลอมแบบติดแน่นบางชนิดราคาจะอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนรากฟันเทียมจะราคาแพง
  • สุขภาพช่องปาก แนะนำใช้ฟันปลอมแบบติดแน่นสำหรับคนที่สุขภาพดี ส่วนสุขภาพที่ไม่ดีแนะนำฟันปลอมแบบถอดได้
  • ความต้องการของผู้ใช้สะดวกสบายควรใช้ฟันปลอมแบบถอดได้ ต้องการประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีใช้ฟันปลอมแบบติดแน่น เน้นความสวยงาม ควรฟันปลอมแบบติดแน่น
  • หากเน้นระยะเวลาสั้น ใช้ฟันปลอมแบบถอดได้ ส่วนการใช้งานระยะยาว ควรฟันปลอมแบบติดแน่น
  • หลีกเลี่ยงความเสี่ยงฟันผุ ใช้ฟันปลอมแบบติดแน่น เสี่ยงต่อปัญหาเหงือกใช้ฟันปลอมแบบถอดได้
  • ความต้องการอื่นๆ เน้นการพูดชัดใช้ฟันปลอมแบบติดแน่น หากเน้นต้องการเคี้ยวอาหารได้สะดวก ใช้ฟันปลอมแบบติดแน่น

ข้อดีและข้อเสียของฟันปลอมแบบถอดได้

ข้อดีของฟันปลอมแบบถอดได้

  • ราคาถูกกว่า ฟันปลอมแบบติดแน่น
  • ดูแลรักษาง่าย ถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ไม่ต้องกรอฟัน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีสันเหงือกไม่แข็งแรง

ข้อเสียของฟันปลอมแบบถอดได้

  • หลุดลอกได้ง่าย
  • ทำให้พูดไม่ชัด
  • เคี้ยวอาหารได้ไม่สะดวก
  • เกิดแผลในช่องปาก
  • เกิดการสะสมเศษอาหาร
  • ต้องปรับตัวให้ชินกับการใช้งาน

ข้อดี และ ข้อเสีย ฟันปลอมเเบบติดเเน่น

ข้อดีของฟันปลอมแบบติดแน่น

ข้อเสียของฟันปลอมแบบติดแน่น

  • มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
  • เคี้ยวอาหารได้สะดวก
  • พูดชัด และดูสวยงาม
  • ใช้งานได้ยาวนาน
  • ไม่ต้องถอดเข้าออก
  • ราคาแพง
  • ต้องกรอฟัน
  • ดูแลรักษายาก
  • ทำความสะอาดยาก
  • เสี่ยงต่อฟันผุ
  • อาจเกิดปัญหากับเหงือก

คำถามที่พบบ่อย

ฟันปลอม การใส่แล้วเจ็บหรือไม่

การใส่ฟันปลอมเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการปรับแต่งให้พอดีกับปากของแต่ละคน การใส่ฟันปลอมอาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือเจ็บได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นหลังจากการใส่ฟันปลอมเสร็จ อาจมีความรู้สึกอึดอัดหรือเจ็บปวดบางครั้ง ซึ่งเป็นสภาวะปกติที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้น แต่ควรระวังและปรึกษาหมอทันทีหากมีอาการเจ็บปวดที่รุนแรงหรือไม่ผ่อนคลายได้

หลังจากที่ฟันปลอมได้ถูกปรับแต่งให้พอดีกับปากแล้ว ควรใช้เวลาในการปรับตัวกับฟันปลอมใหม่ๆ อาจมีความรู้สึกแปลกๆ หรือไม่สบายในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความไม่สบายนี้จะลดลงและคุณจะเริ่มรู้สึกสบายมากขึ้น

การดูแลฟันปลอมอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเจ็บปวดหรือความไม่สบายหลังใส่ฟันปลอมได้ ควรรักษาความสะอาดของฟันปลอมอย่างสม่ำเสมอ และปรึกษาหมอทุกครั้งที่มีอาการผิดปกติ 

ฟันปลอมมีอายุการใช้งานนานกี่ปี

ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่สูญเสียฟันจากการบาดเจ็บหรือโรคประจำตัว การดูแลรักษาฟันปลอมอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ฟันปลอมใช้งานได้นานขึ้น

ฟันปลอมมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต ฟันปลอมที่ทำจากโพรเชียนมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี ในขณะที่ฟันปลอมที่ทำจากเซรามิคสามารถใช้งานได้นานกว่า 15 ปี

การรักษาฟันปลอมอย่างเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฟันปลอมใช้งานได้นาน การทำความสะอาดฟันปลอมอย่างสม่ำเสมอ และไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพของฟันปลอมเป็นประจำ จะช่วยลดโอกาสให้เกิดภาวะที่ทำให้ฟันปลอมเสียหายได้

นอกจากนี้ การรักษาฟันธรรมดาอย่างเหมาะสมก็มีผลต่ออายุการใช้งานของฟันปลอม การรักษาฟันและเหงือกอย่างถูกวิธีจะช่วยลดการสะสมเชื้อโรคและลดความเสียหายของฟันปลอมได้

ดังนั้น ฟันปลอมสามารถใช้งานได้นานถ้าได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี การรักษาฟันปลอมอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานฟันปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา

ฟันปลอมใส่แล้วหลวม ต้องแก้ยังไง

การใส่ฟันปลอมเป็นวิธีที่ทันสมัยและทันสมัยที่ช่วยให้คนสามารถมีรอยยิ้มที่สวยงามและเชื่อมั่นได้ อย่างไรก็ตาม หากฟันปลอมถูกใส่อย่างไม่ถูกวิธีหรือดูแลไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาเช่นฟันปลอมหลวม ซึ่งสามารถทำให้คนรู้สึกไม่สบายและไม่มั่นใจในการพูดหรือยิ้มได้

วิธีแก้ไขเมื่อฟันปลอมใส่แล้วเกิดปัญหาหลวมคือการพบคุณหมอทันที เพื่อให้คุณหมอตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ทันที คุณหมอสามารถประเมินสถานะของฟันปลอมและแนะนำวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล

วิธีการแก้ไขปัญหาฟันปลอมหลวมสามารถแบ่งออกเป็นหลายวิธี เช่นการปรับปรุงฟันปลอมเดิม หรือการสร้างฟันปลอมใหม่ที่เหมาะสมกับโครงสร้างของปากและให้ความสมบูรณ์กับฟันธรรมชาติ

นอกจากนี้ การดูแลรักษาฟันปลอมอย่างถูกวิธีเช่นการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และไปตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาฟันปลอมหลวมในอนาคต

ดังนั้น การรักษาฟันปลอมใส่แล้วหลวมนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสำคัญ โดยการปรึกษาคำแนะนำจากคุณหมอและดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามและมั่นใจในการสื่อสารได้อย่างเต็มที่

การใส่ฟันปลอมทำให้พูดไม่ชัดจริงหรือไม่

ฟันปลอมเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ในการช่วยเสริมความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานของฟัน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้มีปัญหาเรื่องฟันที่หายไปหรือเสียหาย การใช้ฟันปลอมช่วยให้ผู้ใช้สามารถกินอาหารได้อย่างปกติและมีรอยยิ้มที่สวยงามขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีความคิดเห็นบางส่วนที่กล่าวว่าการใช้ฟันปลอมอาจส่งผลให้การพูดของผู้ใช้ไม่ชัดเจน เนื่องจากฟันปลอมอาจมีผลต่อการออกเสียงของเสียงพูด ซึ่งอาจทำให้เสียงพูดของผู้ใช้ไม่ชัดเจนหรือมีเสียงดังลดลง

ดังนั้น ผู้ที่มีความสนใจในการใช้ฟันปลอมควรปรึกษาแพทย์ทันตกรรมเพื่อขอคำแนะนำในการดูแลรักษาฟันปลอมให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต 

สรุป

การใส่ฟันปลอมเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์อย่างมากในการซ่อมแซมปัญหาทางด้านฟันและปาก โดยทำให้คนที่มีปัญหาเรื่องฟันหาย หรือฟันเสื่อม สามารถมีรอยยิ้มที่สวยงามและมั่นใจได้อีกครั้ง

การใส่ฟันปลอมสามารถช่วยป้องกันปัญหาทางสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การเกิดการติดเชื้อในช่องปาก และช่วยลดการเสียหายของกระดูกฟันที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ การใส่ฟันปลอมยังช่วยปรับรูปร่างใบหน้าให้ดูสมสวยยิ้มได้มากขึ้น คนที่มีฟันหาย หรือฟันเสื่อม ควรคำนึงถึงการใส่ฟันปลอมเพื่อรักษาสุขภาพฟันและปากให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การมีรอยยิ้มที่สวยงามยังช่วยเสริมความเชื่อมั่นและเพิ่มความสมบูรณ์ในชีวิตประจำวัน

ดังนั้น การใส่ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่ดีที่ควรพิจารณาในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพหรือความสวยงามของรอยยิ้ม